สำหรับคนที่มีปัญหาบ้านมีฝุ่นเยอะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ที่สามารถกรองฝุ่นได้อย่างสะอาด เสียงเงียบ ทำให้บ้านมีอากาศบริสุทธิ์ เรามีตัวเลือกดีๆ มาแนะนำกัน
เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดอากาศในบ้าน ห้องนอน ห้องทำงาน โดยการขจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากอากาศ รวมทั้งฝุ่น ควัน ละอองเกสร แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ
เครื่องฟอกอากาศมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป เครื่องฟอกอากาศชนิดที่พบมากที่สุดคือตัวกรองแบบกลไกฟิลเตอร์เชิงกลประกอบด้วยฟิลเตอร์สี่เหลี่ยมขนาดเล็กจำนวนหนึ่งซึ่งติดอยู่กับพัดลม ตัวกรองดักจับอนุภาคและสารก่อภูมิแพ้ในขณะที่พัดลมเคลื่อนอากาศไปรอบๆ ตัวกรอง
เครื่องฟอกอากาศประเภทที่สองที่พบมากที่สุดคือตัวกรองอิเล็กทรอนิกส์ ฟิลเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วยฟิลเตอร์สี่เหลี่ยมบางๆ จำนวนหนึ่งติดอยู่กับคอนโทรลเลอร์ ตัวควบคุมจะควบคุมการไหลของอากาศผ่านตัวกรองและควบคุมพัดลม
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ
ในปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศ ได้พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ มาอย่างทันสมัย สามารถทำให้อากาศภายในบ้าน ที่มีมลภาวะฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรือแม้แต่เชื้อไวรัส และแบคทีเรียเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็น ทำการฟอกผ่านแผ่นกรองหลายกระบวนการ ทำให้บ้านมีความบริสุทธิ์ สดชื่น และมีความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยประโยชน์หลักๆ จะมีดังนี้
- เมื่ออากาศที่บ้านเรามีมลพิษเยอะๆ จะช่วยป้องกันให้เกิดโรคทางเดินหายใจและโรคภูมิแพ้ได้อย่างดี สามารถกรองได้ทั้ง ทั้งฝุ่นละออง PM 2.5 และเชื้อ Coronavirus COVID-19 ทำปราศจากโรคภัยต่างๆ
- นอกจากจะทำให้บ้านได้อากาศที่ สะอาด บริสุทธิ์ ไร้ฝุ่นกวนใจ กรองเชื้อโรคต่างๆ ได้ดี เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นที่มีแผ่นกรองที่สามารถกรองได้แม้กระทั้งกลิ่นไม่พีงประสงค์ และกลิ่นบุหรี่อีกด้วย
- หากบ้านเรามีมีอากาศที่สดชื่นแล้ว ก็จะช่วยให้เราหลับสบาย และหลับสนิทได้ตลอดทั้งคืน
เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี กรองฝุ่นได้สะอาด
เครื่องฟอกอากาศแต่ละยี่ห้อ ก็อาจมีความสามารถแตกต่างกันออกไป ตามราคาและฟังก์ชั่นต่างๆ ซึ่งในครั้งนี้ ช้อปไหนดี ได้คัดสรร เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี และเป็นที่นิยมขายดีในอันดับต้นๆ ในราคาที่จับต้องได้ มาให้ได้เลือกดูกัน ว่าแล้วก็ไปดูกันเล้ยยยย
1. เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี Blueair รุ่น Classic 205

เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น Classic 205 ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างเต็มที่
- สำหรับห้องขนาด : 26 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 80 วัตต์
- เสียงรบกวน : 32 – 56 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.1 ไมครอน
- น้ำหนัก : 10 กิโลกรัม
มาที่อับดับแรกกันเลยกับ Blueair Classic 205 เครื่องฟอกอากาศเหนือกาลเวลา รุ่นนี้เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็ก ทำงานผ่าน Wi-Fi รุ่นใหม่ สามารถดาวน์โหลดแอพ Blueair Friend และเชื่อมต่อแอพกับเครื่องฟอกอากาศ Blueair Classic 205 สำหรับการควบคุมจากระยะไกลด้วยอุปกรณ์สมาร์ทโฟน
อีกทั้งยังมีดีไซน์สวยหรูทันสมัย หน้าจอดิจิตัลที่เพิ่มเข้ามาช่วยให้คุณสามารถดูและควบคุมให้อากาศที่คุณหายใจเข้าไป และมั่นใจว่าปราศจากสารก่อภูมิแพ้และสิ่งกระตุ้นโรคหอบหืด
Blueair ยังมีเทคโนโลยี HEPASilent การฟอกอากาศที่ให้ประสิทธิภาพในระดับสูงในการขจัดสารมลพิษล่องลอยในอากาศที่มองเห็นได้ทั้งหมด ด้วยการใช้กรองแบบไฟฟ้าสถิตและการกรองโดยวิธีทางกลที่ดีที่สุด ในขณะที่ใช้พลังงานต่ำและเสียงที่เงียบกว่าเครื่องฟอกอากาศทั่วไป
จุดเด่น
- แอปพลิเคชั่นควบคุมการทำงาน
- ปุ่มสัมผัสบนแผงควบคุมดิจิตัล
- กรองฝุ่น PM 2.5
- ตัวเครื่องดูหรูหรา สวยงาม ทันสมัย
- เสียงเงียบ
2. เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี Airdog Air Purifier รุ่น Airdog X3

เครื่องฟอกอากาศ รุ่น Airdog X3 กรองฝุ่น PM 2.5 พร้อมยับยั้งไวรัส COVID 19 ได้ 99%
- สำหรับห้องขนาด : 20 – 30 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 27 วัตต์
- เสียงรบกวน : ≤ 60 dB (A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.0146 ไมครอน
- น้ำหนัก : 5 กิโลกรัม
อันดับที่ 2 ต้องยกให้ Airdog Air Purifier Airdog X3 เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยี TPA ที่ค้นคว้าวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์จาก Silicon Valley ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีอากาศสะอาดอย่างไม่หยุดยั้ง สามารถกรองได้มากกว่า PM 2.5 เพื่อปกป้องคุณและคนที่คุณรักจากมลภาวะในอากาศ ไม่บริสุทธิ์ และสามารถกรองฝุ่นที่เล็กที่สุดได้ถึง 0.0146 ไมครอน ช่วยยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ กำจัดเชื้อไวรัส เชื้อโรค และแบคทีเรียได้ถึง 99.99% อีกทั้งยังช่วยฟอกกลิ่น สารระเหย และควันบุหรี่ได้ดีอีกด้วย
Airdog ยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยฟิลเตอร์ที่สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ ไม่จำเป็นต้องทิ้งแล้วซื้อใหม่ ช่วยให้คุณประหยัดในระยะยาว มอบความคุ้มค่าและอากาศที่ดีที่สุดเพื่อทุกคน ไม่ว่าอากาศข้างนอกจะแย่แค่ไหน ก็มั่นใจได้ว่าอากาศในบ้านของคุณจะยังบริสุทธิ์ ปลอดภัยต่อสุขภาพ
Airdog ฟอกอากาศดีให้คุณด้วยระบบกรอง 4 ชั้น สร้างชั้นม่านประจุไฟฟ้า 40,000 โวลท์ ฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อโรคได้ถึง 99.9% ภายใน 1 ชั่วโมง
ชั้นที่ 1 : ชั้นพรีฟิลเตอร์ สำหรับกรองฝุ่นขนาดใหญ่ ดักจับฝุ่นผง เส้นผม ขนสัตว์
ชั้นที่ 2 : ชั้นม่านประจุไฟฟ้า สร้างชั้นม่านประจุไฟฟ้า 40,000 โวลต์ ฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา มีระบบลมไอออน เหนี่ยวนำฝุ่นและซากเชื้อโรคไปเก็บยังชั้นที่ 3
ชั้นที่ 3 : ชั้นดักฝุ่นขนาดเล็ก ช่วยดักจับฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 และซากเชื้อโรค ไวรัส จากชั้นที่ 2
ชั้นที่ 4 : ชั้นโอโซนรีมูฟเวอร์ที่มีคาร์บอน ช่วยดูดซับกลิ่นและสารระเหย เช่น สารเคมี ฟอร์มาดีไฮด์และควันบุหรี่
จุดเด่น
- แอปพลิเคชั่นควบคุมการทำงาน
- มีปุ่มนิรภัยป้องกันเด็กเล็ก
- ฟอกอากาศดีให้คุณด้วยระบบกรอง 4 ชั้น
- สามารถกรองฝุ่นที่เล็กที่สุดได้ถึง 0.0146 ไมครอน
- กรอง PM 2.5 ได้อย่างสบายๆ
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย,ไวรัส : 99.9% , 99.9% (H3N2) (Covid-19)
- ฟอกกลิ่น สารระเหย และควันบุหรี่ได้
- ฟอกอากาศได้ 360 องศา
- ฟิลเตอร์ที่สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้
3. เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี PHILIPS Air purifier รุ่น AC1215

PHILIPS Air purifier รุ่น AC1215 มีระบบ Sensor ตรวจจับฝุ่น PM 2.5
- สำหรับห้องขนาด : 20 – 63 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 50 วัตต์
- เสียงรบกวน : 33 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.003 ไมครอน
- น้ำหนัก : 8 กิโลกรัม
อันดับที่ 3 PHILIPS Air purifier AC1215 ที่มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะสำหรับการกรองอากาศ โดยการสแกนอากาศ 1,000 ครั้งต่อวินาที เพื่อตรวจจับอนุภาคขนาดเล็กพิเศษ รายงานคุณภาพอากาศในแบบเรียลไทม์ และเลือกความเร็วที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณอย่างชาญฉลาด (ในโหมดอัตโนมัติ)
ขจัดไวรัสและฝุ่นละอองตามอากาศได้สูงสุดถึง 99.9% ดักจับละอองตามอากาศรวมถึงฝุ่นละอองที่อาจมีไวรัสทางเดินหายใจ เพราะใช้การกรองถึง 3 ชั้น ด้วย NanoProtect HEPA, แผ่นกรองผงถ่านกัมมันต์และแผ่นกรองชั้นแรกสามารถดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็ก 0.003 ไมครอนได้ถึง 99.97% ดังนั้นคุณจึงปลอดภัยจาก PM2.5, แบคทีเรีย, ละอองเกสร, ฝุ่น, ขนสัตว์และมลพิษอื่นๆ
ด้วยการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน เครื่องฟอกอากาศจึงทำงานได้สูงสุดที่กำลังไฟ 50 วัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับหลอดไฟมาตรฐานหนึ่งดวง
จุดเด่น
- เซ็นเซอร์กรองอากาศอัจฉริยะ
- ดักจับอนุภาคขนาด 0.003 ไมครอนได้
- จอแสดงคุณภาพอากาศ
- ไฟแสดงสถานะแผ่นกรองอัจฉริยะ
- โหมดสลีปที่มีการทำงานที่เงียบเป็นพิเศษ
4. เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Lite

Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Lite เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ รองรับ Google Assistant
- สำหรับห้องขนาด : 25 – 43 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 32 วัตต์
- เสียงรบกวน : ≤ 45 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.3 ไมครอน
- น้ำหนัก : 4.8 กิโลกรัม
อันดับที่ 4 Xiaomi Mi Smart Air Purifier 4 Lite เครื่องฟอกอากาศระดับนาโนที่มีประสิทธภาพสูง ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ 6,330 ลิตรในทุกๆ นาที ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์อย่างรวดเร็ว ทำให้อากาศภายในห้องดีขึ้น
ไส้กรองขนาดใหญ่ 3 ชั้น ประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 95% ทำให้อากาศบริสุทธิ์โดยผ่านการกรองทีละชั้น กรองฝุ่น แบคทีเรีย ละอองเรณูและอนุภาคขนาดเล็ก อื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดีไซน์รูปตัวเครื่องทรงสี่เหลี่ยมสวยงาม ขนาดกะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่ เหมาะกับการวางใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก หน้าจอ LED พร้อมเซนเซอร์มีความแม่นยำสูง แสดงค่า PM2.5 ภายในห้องแบบเรียลไทม์ ปถบไฟสว่าง 3 สีเพื่อบ่งบอกคุณภาพของอากาศภายในห้อง สามารถรับรู้ข้อมูลได้ทันที และยังรองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่น Mi Home และ โหลดสั่งด้วยเสียงผ่าน Google Assistant
จุดเด่น
- รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่น
- ไส้กรองขนาดใหญ่ 3 ชั้น
- หน้าจอ LED แสดงค่า PM2.5
- เสียงรบกวนต่ำ
- รองรับ Google Assistant
5. เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี IRIS OHYAMA รุ่น PMAC-220

ไอริส โอยามะ รุ่น PMAC-220 เครื่องฟอกอากาศ กรองฝุ่น 2.5 PM กรองเชื้อโรค
- สำหรับห้องขนาด : 23 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 44 วัตต์
- เสียงรบกวน : 55 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.3 ไมครอน
- น้ำหนัก : 4.7 กิโลกรัม
อันดับที่ 5 IRIS OHYAMA PMAC-220 เครื่องฟอกอากาศคุณภาพมาตรฐานแบรนด์ญี่ปุ่น มาพร้อมกับแผ่นกรองฝุ่นที่ช่วยกรองสิ่งสกปรก รวมถึงขนสัตว์ ตัวเครื่องและแผ่นกรองฝุ่น ทำความสะอาดง่าย พร้อมเทคโนโลยี HEPA ที่ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะ ช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาดยิ่งขึ้น กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง รวมถึงกลิ่นควันบุหรี่ภายในบ้านอีกด้วย
เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ขนาด 23 ตารางเมตร สามารถใช้ได้ทั้งห้องนั่งเล่น และห้องนอน ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 4.7 กิโลกรัมเท่านั้น
จุดเด่น
- ฟอกอากาศเร็ว
- แผ่นกรอง 3 ขั้นตอน
- มีโหมดป้องกันเด็กกดเล่น
- น้ำหนักเบา
6. เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนยี่ห้อไหนดี Smart Air รุ่น The Sqair

Smart Air รุ่น The Sqair เครื่องกรองอากาศ กำจัดฝุ่น PM2.5 ไวรัส แบคทีเรีย
- สำหรับห้องขนาด : 40 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 38 วัตต์
- เสียงรบกวน : 23 – 54 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.1 ไมครอน
- น้ำหนัก : 4.5 กิโลกรัม
อันดับที่ 6 Smart Air The Sqair เครื่องฟอกอากาศทรงสี่เหลี่ยม มีขาตั้งไม้แท้ ดูๆ ไปก็เหมือนเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง แต่มีประโยชน์ที่กรองอากาศได้อย่างดี สามารถฟอกอากาศห้องขนาด 40 ตร.ม. ได้ภายใน 25 นาที
ปกป้องคุณจาก PM 2.5 และไวรัส COVID-19 ด้วยการใช้แผ่นกรอง HEPA สามารถดักจับฝุ่นละอองที่ละเอียดเล็กถึง 0.1 ไมครอน หรือเท่ากับขนาดของ Coronavirus
จุดเด่น
- ฟอกอากาศเร็ว
- แผ่นกรอง 3 ขั้นตอน
- มีโหมดป้องกันเด็กกดเล่น
- น้ำหนักเบา
7. เครื่องกรองอากาศรุ่นไหนดี STADLER FORM รุ่น ROGER LITTLE

STADLER FORM เครื่องฟอกอากาศ รุ่น ROGER LITTLE
- สำหรับห้องขนาด : 35 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 40 วัตต์
- เสียงรบกวน : 29 – 50 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.3 ไมครอน
- น้ำหนัก : 5.5 กิโลกรัม
อันดับที่ 7 STADLER FORM ROGER LITTLE เครื่องฟอกอากาศที่มีความสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์, สารระเหย, เศษฝุ่น, เกสร, ไวรัสและแบคทีเรียได้ มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดฝุ่นที่จะคอยตรวจสอบคุณภาพอากาศของบ้านและแจ้งระดับให้คุณด้วยสีที่เปลี่ยนไปของตัวเครื่อง
Roger มีการใช้แผ่นกรองฟิลเตอร์ HEPA ที่สามารถฟอกอากาศให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพผนวกเข้ากับฟิลเตอร์ Carbon ที่จะกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไป
การดีไซน์ตัวเครื่องเป็นแบบ Modern Design & Design by Switzerland เข้ากับทุกเฟอร์นิเจอร์ของบ้านได้ดี วัสดุเป็น ABS, IRON ทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งช่องดูดอากาศจะอยู่ทางด้านหน้า แล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ด้านบน ทำให้สามารถวางชิดผนังได้
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยงาม หรูหรา
- กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี
- การใช้งานทนทาน
- มีเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น
8. เครื่องกรองอากาศยี่ห้อไหนดี HATARI รุ่น HT-AP12R1

HATARI เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HT-AP12R1
- สำหรับห้องขนาด : 32 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 49 วัตต์
- เสียงรบกวน : 30 – 55 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.3 ไมครอน
- น้ำหนัก : 4.5 กิโลกรัม
อันดับที่ 8 HATARI HT-AP12R1 เครื่องฟอกอากาศ ที่มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่น PM 2.5 พร้อมหน้าจอแสดงผลคุณภาพอากาศ มีรีโมท เพื่อควบคุมการใช้งาน ปรับระดับแรงดูดอากาศได้ 4 ระดับระบบ AUTO ปรับระดับแรงดูดอากาศอัตโนมัติ ตามปริมาณฝุ่นบริเวณรอบตัวเครื่อง และยังมีการเสริมความปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ เทอร์มอล ฟิวส์ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย มอก.1516-2549 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
ระบบกรองอากาศทำงานอย่างต่อเนื่อง 4 ขั้นตอน ได้แก่
ชั้นที่ 1 PRE-FILTER แผ่นกรองชั้นแรก ช่วยกรองฝุ่นผงและอนุมูลแปลกปลอมขนาดใหญ่
ชั้นที่ 2 BIO FILTER แผ่นกรองที่เคลือบสารสกัดแซนโทนจากเปลือกมังคุด ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ
ชั้นที่ 3 HEPA FILTER ดักจับฝุ่นละอองและอนุมูลแปลกปลอมได้ถึง 0.3 ไมครอน
ชั้นที่ 4 ACTIVATED CARBON FILTER ช่วยขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
จุดเด่น
- ระบบตัดไฟอัตโนมัติ เทอร์มอล ฟิวส์
- กรองอากาศทำงานอย่างต่อเนื่อง 4 ขั้นตอน
- ช่วยขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
9. เครื่องฟอกอากาศในบ้าน Smarthome รุ่น AP-180

Smarthome เครื่องกรองอากาศ รุ่น AP-180 กรองและบอกระดับ PM 2.5
- สำหรับห้องขนาด : 20 – 35 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 40 วัตต์
- เสียงรบกวน : 56 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.3 ไมครอน
- น้ำหนัก : 5.5 กิโลกรัม
อันดับที่ 9 Smarthome AP-180 เป็นเครื่องกรองอากาศราคาประหยัด ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใส้กรอง 4 ชั้นได้มาตรฐาน กรอง PM 2.5 ให้อากาศบริสุทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว กรองอากาศแบบ 360 องศา รอบทิศทางตามหลักกลศาสตร์ อากาศไหลเวียนได้สะดวกขึ้น
การออกแบบตัวเครื่องที่ผลิตจากพลาสติก ABS ดีไซน์รูปทรงสวยงาม และมีช่องอากาศรับลมขนาดใหญ่ ที่สามารถดูดอากาศเข้ามาและไหลเวียนได้สะดวก เสริมพลังการกรองอากาศให้บริสุทธิ์ในเวลาอันรวดเร็ว และยังมีโหมดการ Sleep เพื่อป้องกันเสียงและแสงรบกวนการนอนหลับ
จุดเด่น
- การกรอง 4 ชั้น กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- กรองอากาศได้รอบทิศทาง
- ช่องรับลมขนาดใหญ่ กรองอากาศได้รวดเร็ว
10. เครื่องกรองอากาศในบ้าน ไร้ใบพัด Meier

เครื่องฟอกอากาศ Meier ช่วยป้องกันภูมิแพ้ แบคทีเรีย เย็นสดชื่น ประหยัดพื้นที่
- สำหรับห้องขนาด : 50 ตางรางเมตร
- กำลังไฟที่ใช้ : 65 วัตต์
- เสียงรบกวน : 38 dB(A)
- กรองฝุ่นเล็กสุด : 0.5 ไมครอน
- น้ำหนัก : 3.2 กิโลกรัม
อันดับที่ 10 Meier เครื่องฟอกอากาศราคาถูก ถึงจะเป็นอันดับสุดท้าย แต่ยังได้ถือว่านำมาจัดอับดับ 1 ใน 10 เครื่องฟอกอากาศที่ดีอันดับต้นๆ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ไร้ใบพัด ทำให้ดูเก๋ๆ แปลกๆ จากรุ่นอื่นๆ แต่ประสิทธิภาพก็ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่า และยังสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ กำจัดแบคทีเรีย และกลิ่นได้
มีไฟแสงสีม่วงช่วยในการดักจับยุง พร้อมกับปล่อยไอน้ำลมเย็นกระจาย สามารถสวิงได้อย่างทั่วถึง มีรีโมทคอนโทรลควมคุมระยะไกล ฟังก์ชั่นใช้งานง่าย เสียงลมเบามาก ไม่รบกวนเวลานอน
จุดเด่น
- ไร้ใบพัด
- มีแสงสีม่วงดักจับยุง
- มีพัดลมไอเย็น
- เสียงเบามาก
- กำจัดแบคทีเรีย และ PM 2.5
บทสรุป
การใช้เครื่องฟอกอากาศ ควรหมั่นถอดแผงฟิลเตอร์ มาทำความสะอาดบ่อย เนื่องจากหากใช้ไปนานๆ อาจเกิดการอุดตันที่แผงฟิลเตอร์ ทำให้ไม่สามารถกรองอากาศได้ หรืออาจเป็นแหล่งสะสมฝุ่น ทำให้เกิดเชื้อโรคได้ ทั้งนี้ การจะให้บ้านมีอากาศสะอาดบริสุทธิ์ ก็ควรที่จะดูแลฝุ่นในส่วนอื่นๆ ของบ้านด้วย เพื่อเครื่องกรองฝุ่นจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป สุดท้ายก็ขิให้ทุกๆ ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และอย่าลืมติดตามบทความดีๆ จาก BaanAZ.com และเจอกันใหม่ในบทความต่อไป ขอบคุณครับ
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ : 10 ไดร์เป่าผมรุ่นไหนดี ลมแรง แห้งไว ใช้ดีทนทาน