สวัสดีครับชาวเน็ตทุกท่าน วันนี้เราจะมาจัดอันดับสินค้าประสิทธิภาพ เครื่องตรวจจับโลหะรุ่นไหนดี ในราคาหลักร้อยถึงหลักพันต้นๆ เท่านั้น สามารถตรวจจับแม่นยำไม่พลาด นำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายงานกันครับ
เครื่องตรวจจับโลหะ คืออะไร
เครื่องตรวจจับโลหะคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบหรือค้นพบวัตถุโลหะในสถานที่ต่าง ๆ โดยเครื่องตรวจจับโลหะทำงานโดยใช้หลักการการทำงานของแม่เหล็กแม่น้ำซึ่งสามารถตอบสนองต่อฟิลด์แม่เหล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยวัตถุโลหะที่อยู่ใกล้เคียง
เครื่องตรวจจับโลหะมักใช้ในหลายแวดวงการ เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยในสนามบิน การตรวจจับวัตถุต้องสงสัยในการค้นพบวัตถุระเบิดในสถานที่สาธารณะ เช่น สถานีรถไฟ หรือโรงเรียน และยังใช้ในการค้นหาโลหะต่าง ๆ ในงานก่อสร้างหรือการค้นหาสิ่งของที่สูญหาย เพื่อช่วยให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เครื่องตรวจจับโลหะ มีกี่ประเภท
เครื่องตรวจจับโลหะมีหลายประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยประเภทของเครื่องตรวจจับโลหะจะแตกต่างกันตามหลักการทำงานและการใช้งาน ซึ่งหลักๆ ก็มีดัง
- เครื่องตรวจจับโลหะความถี่ต่ำ ลักษณะการทำงานของเครื่องคือ จะมีขดลวดอยู่ 2 เส้นในการสร้างแม่เหล็ก เมื่อเจอโลหะ ระบบจะสร้างสื่อกระแสไฟขึ้น และมีเสียงแจ้งเตือน ซึ่งหลักการเช่นนี้ทำให้เครื่องมีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และราคาที่ค่อนข้างถูก พอจะใช้หาเหรียญกษาปณ์ หรือโลหะต่าง ๆ ได้
- เครื่องตรวจจับโลหะแบบเหนี่ยวนำไฟฟ้า จะมีเพียงขดลวดอันเดียวที่คอยทำการตรวจจับโลหะ เหมาะกับการหาโลหะที่ชายหาด, แม่น้ำ เป็นต้น มากกว่า แต่เครื่องลักษณะนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าแบบแรก
- เครื่องตรวจจับโลหะแบบเฉพาะ เป็นการออกแบบเครื่องมาเพื่อใช้หาวัตถุที่ต้องการโดยเฉพาะ เช่น เครื่องตรวจจับโลหะค้นหาทอง หรือเครื่องตรวจจับโลหะแบบใช้ใต้น้ำ เพราะต้องมีคุณสมบัติที่กันน้ำได้หลายเมตร เป็นต้น
เครื่องตรวจจับโลหะอาจมีประเภทอื่น ๆ อีกมากมายที่ใช้ในงานและสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป แต่เครื่องตรวจจับโลหะประเภทเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่พบบ่อยในการใช้งานประจำวันครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลยครับว่ามีรุ่นไหนกันบ้าง
1. เครื่องตรวจจับโลหะ รุ่นไหนดี Minelab Equinox 700

Minelab Equinox 700 เครื่องตรวจจับโลหะคุณภาพสูง
- ขนาด: 85-120 x 23.5 ซม.
- กันน้ำ 5 เมตร
- เทคโนโลยี Multi-IQ
- มีระบบตัดโลหะไม่พึงประสงค์
- แยกโลหะและเหล็กได้ดี
เครื่องตรวจจับโลหะ Minelab Equinox700 ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี Multi-IQ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ Minelab มีระบบ ID เป้าหมายของค่าโลหะมีความละเอียดสูง 119 เป็นค่าโลหะที่น่าประทับใจ ส่งผลให้มีการแยกเป้าหมายที่เหนือกว่า และกันน้ำได้เต็มที่ถึง 5 ม. (16 ฟุต) ด้วยระดับ IP68 ครับ
คุณสมบัติที่เพิ่มเติมจากรุ่นก่อนๆ เช่น ระบบเพลาแบบพับได้ด้วยคาร์บอนไฟเบอร์แบบพับได้ 3 ชิ้น และระบบควบคุมเสียงขั้นสูง รวมถึงคุณสมบัติที่ครบครัน เช่น ไฟฉาย Control Pod และ Handgrip Vibration เป็นต้น ครับ
ข้อดี:
- เทคโนโลยี Multi-IQ ตรวจจับโลหะทุกชนิดพร้อมกัน
- โหมดการใช้งานครอบคลุม (Park, Field, Beach, Gold)
- กันน้ำลึก 5 เมตร ใช้งานได้ทั้งบนบกและในน้ำ
- น้ำหนักเบา (1.2 กก.) และแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง
ข้อเสีย:
- ราคาสูง (ประมาณ 30,000-35,000 บาท)
- อาจเกินความจำเป็นสำหรับมือใหม่
เหมาะสำหรับ:
- นักล่าสมบัติมือใหม่-มือโปร
- การค้นหาโลหะทุกพื้นที่ ทั้งบนบกและใต้น้ำ
คะแนนรวม: ★★★★★ (5/5)
Minelab Equinox 700 คือเครื่องตรวจจับโลหะที่ครบเครื่องทั้งฟีเจอร์และคุณภาพ คุ้มค่าสำหรับคนที่จริงจังกับการล่าสมบัติครับ
2. เครื่องตรวจจับโลหะ รุ่นไหนดี Minelab X-Terra Pro

Minelab X-Terra Pro เครื่องตรวจจับโลหะคุณภาพสูง เครื่องหาทอง เครื่องสแกนโลหะ
- ขนาด: 85-120 x 23.5 ซม.
- มีโหมดค้นหา 3 โหมด ได้แก่ โหมดสวน ทุ่งนา และโหมดชายทะเล
- ตั้งความลึกได้ 25 ระดับ
- มีระบบตัดโลหะไม่พึงประสงค์
- แสดงค่าโลหะเป็นตัวเลข ถึง 99
Minelab X-Terra Pro เครื่องตรวจจับโลหะคุณภาพสูง เครื่องหาทอง เครื่องสแกนโลหะ กันน้ำ 5 เมตร มีโหมดค้นหา 3 โหมด ได้แก่โหมดสวน ทุ่งนา และโหมดชายทะเล มีระบบเสียงเปลี่ยนเสียงได้หลายแบบ แสดงค่าโลหะเป็นตัวเลข ถึง 99 เปิดไฟหน้าจอได้ มีไฟฉายด้านหลังเครื่อง พร้อมระบบสั่น ตั้งความลึกได้ 25 ระดับ แสดงค่าความลึก สามารถต่อหูฟังภายนอกได้ มีระบบพินพ้อยชี้เป้า มีระบบตัดโลหะไม่พึงประสงค์ มาพร้อมจานกันน้ำ 12 นิ้ว ครับ
ข้อดี:
- ปรับความถี่ VLF ได้หลากหลาย เหมาะกับโลหะทุกชนิด
- น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย มือใหม่ก็ใช้ได้สบาย
- ราคาเป็นมิตร คุ้มค่ากับฟีเจอร์ที่ได้รับ
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีแร่ธาตุหนัก (ดินเค็ม/ทรายเปียก)
- ขาดฟีเจอร์ระดับสูง เช่น Multi-IQ หรือการกันน้ำลึก
เหมาะสำหรับ:
- ผู้เริ่มต้นหรือคนที่ต้องการใช้งานทั่วไป
- การค้นหาสิ่งของในพื้นที่ปกติ เช่น สนามหญ้าหรือสวน
คะแนนรวม: ★★★★☆ (4/5)
Minelab X-Terra Pro เป็นเครื่องตรวจจับโลหะราคาประหยัดที่เหมาะสำหรับมือใหม่ และใช้งานได้คุ้มค่าในทุกพื้นที่ทั่วไปครับ
3. เครื่องตรวจจับโลหะรุ่นไหนดี TX-850

TX-850 ตัวค้นหาสแกนเนอร์ความลึกใต้ดิน
- ขนาด: 1340*280 มม.
- ตรวจจับความลึก: 2.5 เมตร
- ขดลวดค้นหา: 11นิ้ว, กันน้ำ, เปลี่ยนได้
- แรงดันไฟฟ้าในการทำงาน: 9 โวลต์
- ความถี่: 19 กิโลโวลต์ ควบคุมด้วยคริสตัล
TX-850 ตัวค้นหาสแกนเนอร์ความลึกใต้ดิน สามารถตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคากลางๆ ด้านยืดได้ยาวถึง 42-52นิ้ว แบตเตอรี่: 1*9V ความไวขั้นพื้นฐาน: เหรียญสหรัฐ (12-15นิ้ว) ตรวจจับความลึกสูงสุด: 2.5 เมตร โหมดบ่งชี้แอลซีดีและตัวระบุเสียง มีแจ็คหูฟังปรับระดับเสียงและความไว ช่วงความสมดุลของพื้นดินจากเฟอร์ไรต์ไปจนถึงน้ำเกลือรวม แบตเตอรี่ใช้ได้นานถึง 15 ชั่วโมง อุณหภูมิในการทำงาน: (-10ถึง + 50) องศาเซลเซียส ช่วงความชื้นในการทำงาน: 0-90% ครับ
ข้อดี:
- ปรับความถี่ VLF ได้หลากหลาย เหมาะกับโลหะทุกชนิด
- น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย มือใหม่ก็ใช้ได้สบาย
- ราคาเป็นมิตร คุ้มค่ากับฟีเจอร์ที่ได้รับ
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีแร่ธาตุหนัก (ดินเค็ม/ทรายเปียก)
- ขาดฟีเจอร์ระดับสูง เช่น Multi-IQ หรือการกันน้ำลึก
เหมาะสำหรับ:
- ผู้เริ่มต้นหรือคนที่ต้องการใช้งานทั่วไป
- การค้นหาสิ่งของในพื้นที่ปกติ เช่น สนามหญ้าหรือสวน
คะแนนรวม: ★★★★☆ (4/5)
TX-850 เป็นเครื่องตรวจจับโลหะที่คุ้มราคา เหมาะสำหรับการค้นหาโลหะมีค่าในพื้นที่ปกติ แม้ไม่เหมาะกับงานหนัก แต่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่วไปได้ดีครับ
4. เครื่องตรวจจับโลหะรุ่นไหนดี Metal Detector

เครื่องตรวจจับโลหะ เครื่องตรวจจับโลหะใต้ดิน Metal Detector
- ขนาด: ขนาดสินค้า: 1290*260 มม
- น้ำหนัก: 1.1 กิโลกรัม
- แบตเตอรี่: 9 โวลต์
- ประสิทธิภาพการตรวจจับ: หลากหลาย
- การสแกน: ระบบตั้งตัดขยะโลหะ
เครื่องตรวจจับโลหะ เครื่องตรวจจับโลหะใต้ดิน Metal Detector หาสมบัติ เครื่องหาทองคำ มีจานกันน้ำจานสามารถจุ่มน้ำจืดได้ไม่มีปัญหา สามารถจับทองรูปพรรณ แหวน พระ เหรียญ ได้จริง เหมาะกับโลหะมีค่าที่เป็นสามารถตั้งความลึก ตั้งระดับเสียง และตั้งตัดขยะโลหะ เหล็กได้ สำหรับความลึกขึ้นอยู่กับขนาดของโลหะ ยิ่งใหญ่ ยิ่งลึก ลึกสุด ครึ่งเมตรนิดๆ ครับ
ข้อดี:
- ใช้งานง่ายและสะดวก เหมาะกับมือใหม่
- ระบบการค้นหาที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับโลหะทั่วไป
- ราคาไม่สูงเกินไป คุ้มค่ากับฟีเจอร์ที่ได้รับ
ข้อเสีย:
- ความลึกในการตรวจจับจำกัด ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีแร่ธาตุสูง
- ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่เพียงพอสำหรับนักล่าสมบัติที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
เหมาะสำหรับ:
- ผู้เริ่มต้นหรือคนที่ต้องการใช้งานเบื้องต้น
- การค้นหาสิ่งของทั่วไปในพื้นที่ไม่ซับซ้อน
คะแนนรวม: ★★★☆☆ (3/5)
Metal Detector เป็นเครื่องที่คุ้มค่ากับราคาสำหรับผู้เริ่มต้น แม้จะมีข้อจำกัดในบางด้าน แต่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีครับ
5. เครื่องตรวจจับโลหะรุ่นไหนดี MD1008

เครื่องตรวจจับโลหะ เครื่องสแกนวัตถุ เครื่องหาทอง MD1008
- ขนาด: 370 มม.*305 มม.* 73 มม.
- น้ำหนัก: 1.2 กิโลกรัม
- แบตเตอรี่: 9 โวลต์
- โหมดการใช้งาน: 2 โหมด
- ประสิทธิภาพการตรวจจับ: แม่นยำ
เครื่องตรวจจับโลหะ MD1008 เป็นเครื่องตรวจจับโลหะที่ออกแบบมาเพื่อผู้เริ่มต้น โดยมีน้ำหนักเบาประมาณ 1.2 กิโลกรัมและความยาวที่ปรับได้ถึง 1 เมตร ใช้แบตเตอรี่ AA หรือแบตเตอรี่รีชาร์จได้ พร้อมโหมดการปรับความไว (Sensitivity) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา เครื่องนี้สามารถตรวจจับโลหะทั่วไป เช่น เหรียญและหมุด ได้ในความลึกประมาณ 20-30 ซม. เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ทั่วไป เช่น สนามหญ้าและสวนสาธารณะครับ
ข้อดี:
- ราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- น้ำหนักเบาและใช้งานง่าย
- โหมดปรับความไว (Sensitivity) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา
ข้อเสีย:
- ความลึกในการตรวจจับจำกัด (ประมาณ 20-30 ซม.)
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีแร่ธาตุสูง
เหมาะสำหรับ:
- ผู้เริ่มต้นที่ต้องการเครื่องตรวจจับโลหะในราคาประหยัด
- การค้นหาสิ่งของเล็ก ๆ ในพื้นที่ทั่วไป
คะแนนรวม: ★★★☆☆ (3/5)
MD1008 เป็นเครื่องตรวจจับโลหะที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น ให้ความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงได้ แม้ประสิทธิภาพอาจไม่เหมาะกับงานหนัก แต่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีครับ
วิธีเลือกซื้อ เครื่องตรวจจับโลหะ
- กำหนดความต้องการของคุณให้ชัดเจน เพื่อเลือกเครื่องตรวจจับโลหะที่ตรงกับวัตถุประสงค์และการใช้งานของคุณ.
- ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของเครื่องตรวจจับโลหะที่มีอยู่ เพื่อเลือกประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เช่น VLF, HF, PI, หรือ Metal Detector.
- พิจารณาความไวในการตรวจจับโลหะที่คุณต้องการ เลือกเครื่องที่มีความไวที่เหมาะกับการตรวจจับวัตถุโลหะในลึกหรือขนาดเล็กตามความต้องการของคุณ.
- พิจารณาความสามารถพิเศษที่เครื่องตรวจจับโลหะอาจมี เช่น การปรับความไว เลือกเครื่องที่มีความสามารถที่ตรงกับความต้องการของคุณ.
- คำนึงถึงงบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้และให้ความสำคัญกับคุณภาพของเครื่องตรวจจับโลหะที่คุณจะซื้อ.
- ศึกษารีวิวและความเชื่อถือของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เพื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจ
บทสรุป
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 อันดับ ตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาให้อย่างหลากหลาย ในราคาเบาๆ สามารถจับต้องได้ ใช้งานได้จริง คงรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่า เครื่องตรวจจับโลหะรุ่นไหนดี ที่คุ้มค่ากับราค สามารถเลือกได้ตามความพอใจและงบประมาณในกระเป๋าของคุณได้เลยครับ
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ : 10 เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี กรองสะอาด อากาศบริสุทธิ์ กรอง PM2.5